>สารบัญสำคัญ “คัมภีร์คนเลี้ยงแพะ”
△ฝีมักจะเป็นก้อนแข็ง กดลงไปแล้วผิวหนังแพะบริเวณนั้นจะคืนตัวช้า
ชมรมสัตวแพทย์ แพะ-แกะ ตักสิลามหาสารคาม ฝีแบบนี้ เกิดจากภาวะโปรตีนต่ำในกระแสเลือดเนื่องจากพยาธิดูดเอาไปรับประทานหมด..
แผลที่แตกใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ล้างกัดเอาเศษหนองออก แล้วเช็ดตามด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน ส่วนพื้นคอกที่เปื้อนเศษหนองต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างและโรยปูนขาว..
เชื้อตัวนี้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อม พื้นคอก พื้นดินได้นาน ยิ่งชื้นแฉะเชื้อจะอยู่ทน.
อย่าให้แตกเอง..เชื้อจะกระจายในฟาร์มและจะกลายเป็นว่าเชื้อแฝงในฟาร์มตลอดกาล
วิธีเจาะเอาหนองออก
ก่อนเจาะโกนขนรอบๆก้อนหนองออกให้หมด
1.เช็ดแอลออฮอล์ ก่อนลงมือเจาะ..
2.เอาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กัดล้างเอาหนองออก
3.เอาทิงเจอร์ไอโอดีนอัดเข้าไป
แล้ว หนอง,สำลีเผาให้หมด.
///////////////////////////////////////
เพิ่มเติม..
โรคฝีตุ่มหนอง (Abscesses) ในแพะ
ก.โรคมงคล่อพิษเทียม (Melioidosis)
เป็นโรคตุ่มหนองที่เกิดจากเชื้อ Pseudomonas pseudomallei โดยมีลักษณะตุ่มหนองเกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะภายใน เป็นหนองข้นคล้ายเนย มีสีเหลืองอมเขียว การติดต่อสามารถติดต่อจากดิน น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อนี้อยู่หรือติดต่อโดยตรงจากสิ่งขับถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ จากสัตว์ป่วยโดยตรงหรือเชื้ออาจเข้าทางบาดแผลก็ได้..
สัตว์จะแสดงอาการในลักษณะของโรคเรื้อรังคือ ผอมแห้ง ขนตั้ง หนังหยาบ ตาจมลึก จมูกแห้ง มีขี้มูก ขี้ตา มีอาการปอดบวม ขาเจ็บ เนื่องจากติดเชื้อตามข้อต่างๆ หรือเชื้อติดเข้าไปยังระบบประสาท ทำให้การย่างก้าวผิดปกติ เดินหมุนเวียนเป็นวงกลม อย่างไรก็ตามสัตว์ก็ยังกินอาหารได้ดีจนกระทั่งถึงระยะใกล้ตาย
การรักษา โดยใช้ยาปฏิชีวนะและซัลฟา ได้ผลเพียงหยุดยั้งการลุกลามของโรคเท่านั้น แต่เมื่อหยุดยาโรคก็จะลุกลามต่อไปอีก ดังนั้น จึงไม่ควรพยายามรักษา เพราะอาจจะเป็นการเสี่ยงต่อการกระจายของเชื้อไปสู่สิ่งแวดล้อมต่างๆ และคน ทั้งนี้เพราะโรคนี้สามารถทำให้เกิดโรคในคนได้ด้วย เมื่อพบว่าแพะป่วยเป็นตุ่มฝีหนอง จึงควรให้ความระมัดระวังให้มากที่สุด ควรแยกแพะป่วยเป็นโรคนี้ออกจากฝูงและฆ่าทำลาย พร้อมทั้งใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราดให้ทั่วบริเวณที่แพะป่วยอยู่
ข.โรควัณโรคเทียม (Pseudotuberculosis or Caseous Lymphadenitis)
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium pseudotuberculosis (C.ovis) เป็นโรคตุ่มฝีหนองที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และมีการกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะในแหล่งที่มีการเลี้ยงแพะ แกะ จำนวนมาก
โรคติดต่อได้โดยการกินเชื้อที่ปนเปื้อนเข้าไปโดยตรงหรือเชื้อเข้าทางบาดแผล ตุ่มฝีหนองส่วนใหญ่จะปรากฎให้เห็นตามต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง เช่น บริเวณคอ หัวไหล่ สะโพกและด้านในขาหนีบ ฯลฯ ในระยะแรกๆ จะเป็นกระเปาะเล็กๆ แล้วๆ ค่อยๆ ขยายโตขึ้น บางรายมีขนาดผลเท่าผลส้มโอ หนองข้นคล้ายเนย ในระยะหลังๆ จะพบว่าหนองมีลักษณะแห้ง เกาะเรียงกันเป็นแผ่น ในแพะอายุประมาณ 1 ปี มักไม่พบลักษณะอาการของโรคนี้ เนื่องจากขบวนการเกิดของโรคเป็นไปอย่างช้าๆ จึงทำให้วิการและอาการต่างๆ เกิดขึ้นเฉพาะในแพะที่โตแล้ว (อายุ 3-6 ปี)
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดตุ่มหนองขึ้นที่อวัยวะภายในด้วย เช่น ที่ต่อมน้ำเหลือง ระหว่างขั้วปอด ต่อมน้ำเหลืองระหว่างตับกับกระเพาะ และต่อมน้ำเหลืองที่ลำไส้ ฯลฯ อาการป่วยที่แสดงออกมานั้นขึ้นอยู่กับว่าตุ่มฝีหนองเกิดขึ้นอยู่ที่อวัยวะส่วนใด ซึ่งเชื้อนี้จะเข้าไป รบกวนการทำงานปกติของระบบนั้นๆ ทำให้แพะอ่อนแอและผอมลงเรื่อยๆ ถ้าแพะป่วยเป็นเวลานานก็จะทำให้แพะไม่มีแรง ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
การรักษา โดยการแยกแพะป่วยออกต่างหาก โดยเฉพาะในระยะที่ฝีตามตัวกำลังสุกหรือแตก และใช้ยาฆ่าเชื้อชะล้างฝีหนอง รวมทั้งทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณคอกสัตว์ป่วย หรือบริเวณที่หนองไหลไปปนเปื้อนให้สะอาดเป็นอย่างดี และฉีดยาปฏิชีวนะ เช่น เพนนิซิลิน ออกซี่เตตร้ามัยซิน หรือคลอแรมเฟนิคอล เข้ากล้ามเนื้ออย่างน้อยเป็นเวลา 4 วัน แพะที่อยู่ในระหว่างการรักษานี้จะต้องแยกออกต่างหาก เพื่อป้องกันมิให้เชื้อติดไปยังตัวอื่นๆ
อย่างไรก็ตามควรทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อถึงคนได้ และอีกประการหนึ่งก็คือ โรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง แม้ว่าเชื้อนี้จะไวต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด แต่การรักษาอาจไม่ได้ผลเพราะยาไม่สามารถซึมผ่านหนังของถุงฝีได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการติดโรคนี้ จึงควรระมัดระวังและขจัดของแหลมคมในคอกเลี้ยงแพะและบริเวณรั้ว เนื่องจากของแหลมคมดังกล่าวมักเป็นสาเหตุให้เกิดบาดแผลตามตัวหรือในช่องปาก ทำให้เชื้อโรคนี้เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลดังกล่าวได้
และควรหมั่นทำความสะอาดคอก พื้นคอก รางน้ำและอาหาร ด้วยยาฆ่าเชื้อ และแยกแพะออกตามกลุ่มอายุ โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาโรคนี้เกิดขึ้น ควรแยกลูกแพะออกจากแม่ตั้งแต่แรกเกิด เลี้ยงไว้ต่างหาก เพื่อไม่ให้มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคจากแม่ แล้วรีดน้ำนมจากแม่แพะที่มีอายุน้อยและไม่มีวิการหรือไม่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อน นำไปเลี้ยงลูกแพะที่แยกไว้ หรือเลี้ยงลูกแพะด้วยน้ำนมเทียมภายหลังจากที่ให้กินนมน้ำเหลืองแล้ว 3-4 วัน ขณะเดียวกันจะต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เครื่องมือ เครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ
รวมทั้งใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารให้กิน เช่น ออกซีเตตร้ามัยซิน (เทอรามัยซิน) หรือคลอเตตร้ามัยซิน (ออรโอมัยซิน) ขนาด 100 กรัม ผสมอาหาร 1 ตัน ให้กินทั้งฝูง ลูกแพะ แพะรุ่น และฝูงที่ติดเชื้อโรคก็ให้กินอาหารที่ผสมยาดังกล่าวด้วย
ค.โรคฝีหนองต่างๆ (Other abscesses)
เชื้อที่พบ ที่เป็นสาเหตุโดยทั่วไปก็คือ แบคทีเรีย Corynebacterium pyogenes หนองที่เกิดจากเชื้อนี้มีลักษณะเหลวและสีเขียวอมเหลือง ปกติมักพบเชื้อนี้เกิดร่วมกับเชื้อ Pasteurella ในโรคปอดอักเสบ และร่วมกับเชื้อ Streptococci หรือ Staphyllococci ในโรคเต้านมอักเสบ ซึ่งจะทำให้เกิดมีตุ่มหนองขึ้นมากมายในปอดและในเต้านม
บางครั้งเชื้อ C.pyogenes ก็สามารถทำให้เกิดอาการเป็นผื่นขึ้นได้ตามเต้านม การรักษาผื่นที่เกิดขึ้นตามผิวหนังนี้ ควรใช้ครีมปฏิชีวนะ เช่น คลอเฮกซาดีน เตตร้าซัยคลิน ซัลโฟนามายด์ และฟูราซิน ฯลฯ ทาให้ทั่วบริเวณทุกๆ วัน หลังจากทำความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษฆ่าเชื้อโรคเช็ดแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเชื้อ Corynebacterium sp. พบได้บ่อยๆ ในแพะ วิธีควบคุมและป้องกันที่ดีก็คือการจัดการสุขาภิบาลที่ดี และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้อยู่เสมอ .
ขอบคุณคลิป จากคุณSomsakul Roungpakdee เฟสบุ๊ค เลี้ยงแพะยั่งยืน
เพิ่มเติมจากประสบการณ์จริง ของคุณ Suphaset Yuth เฟสบุ๊ค เลี้ยงแพะยั่งยืน
Update แพะที่ผมทำการผ่าฝีที่คอ เมื่อสองเดือนก่อน ปัจจุบันแผลหายเป็นปกติ ก้อนฝีไม่ขึ้นมาใหม่ครับ
ปล.”มือใหม่หัดลองผ่าฝี บริเวณต้นคอแพะ” ผมรอจนฝีสุก สังเกตตรงตำแหน่งที่เป็นฝีขนจะหลุดผิวจะบางครับ ขอเริ่มต้นทำงาน เราต้องสวมใส่ถุงมือยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง จากนั้นทำการผูกมัดแพะให้แน่นหรือให้คนช่วยจับ ทำตามขั้นตอนดังนี้
1.เช็ดฆ่าเชื้อตรงบริเวณรอบหัวฝีด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผล และเช็ดที่ใบมีดโกนใหม่ที่จะใช้กรีด ให้สะอาดก่อน จากนั้นใช้มีดเริ่มผ่ากรีดด้านล่างของลูกฝี เมื่อแผลเปิดแล้วใช้มือค่อยๆบีบหนองก็จะไหลใส่ภาชนะรองรับที่เตรียมไว้ บีบไล่หนองออกให้หมด
2.ใช้ไซลิงค์(ไม่ต้องใส่เข็ม) ดูดน้ำเกลือล้างแผลฉีดเข้าไปในแผล เพื่อทำความสะอาดและไล่หนองที่ตกค้างออก จากนั้นใช้ไซลิงค์ดูดยาเบต้าดีนแล้วฉีดเข้าในแผลอีกครั้ง จากนั้น เอาสำลีที่จุ่มยาเบต้าดีนยัดใส่ไว้ในแผล หรือจะใส่ยาผงเนกาซันท์ใส่เข้าไปในแผล เพื่อป้องกันมิให้แผลติดเชื้อจุลินทรีย์และตัวหนอนของแมลงวัน และ ฉีดพ่นด้วยไซคลอ สเปรย์หรือ ยาม่วงป้องกันการติดเชื้อไปด้วย
3.ฉีดยาปฏิชีวนะอ๊อคซี่คลิน(ขนาด 1 cc./น้ำหนักแพะ 20 กก.) ช่วยรักษาฝีหนองและรักษาการอักเสบของแผล
4.ล้างแผลตามข้อ2ทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งดี
ข้อควรระวัง.ทำลายหนองและอุปกรณ์ทำแผลโดยการฝังกลบอย่าให้สัมผัสกับแพะ ตัวอื่นๆ ซึ่งอาจจะติดต่อกันได้
ปล.ผมไม่ใช่หมอรักษาสัตว์ แต่ต้องทำเพราะจำเป็น เคสนี้ผมลองฉีดยาปฏิชีวนะอ๊อกซี่คลินบริเวณเป็นฝีไปแล้ว ช่วงแรกฝียุบแต่ผ่านไปหนึ่งเดือนฝีหัวโตขึ้นมาอีก เลยต้องทดลองผ่าเพื่อเป็นกรณีศึกษาครับ ตอนนี้แผลหายเป็นปกติแต่ต้องเฝ้าดูว่าฝีจะขึ้นมาอีกไหม ผมต้องขออภัยหากการปฏิบัติการรักษาไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ ขอน้อมรับทุกคำติชมทุกกรณี หากแพะท่านเป็นฝีแนะนำให้แจ้งปศุสัตว์หรือสัตวบาลในท้องที่ทำการดูแลรักษาจะถูกวิธีและปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงของท่านครับ.
ขอบคุณเนื้อเรื่อง+ภาพ ชมรมสัตวแพทย์ แพะ-แกะ ตักสิลามหาสารคาม
Isan Goat network
http://tulyakul.blogspot.com/2012/11/abscesses.html
http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php