คลิปวีดีโอ » สนช.ปลดล็อค“กัญชา-กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

สนช.ปลดล็อค“กัญชา-กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

25 ธันวาคม 2018
912   0

ที่ประชุมสนช.มีมติ 166 ต่อ 0 เสียง เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 พร้อมกำหนดโซนนิ่งในการปลูก เสพกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย..

25 ธ.ค. 2561 การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธานฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ..

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เช่น การพิจารณาปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 ให้สามารถนำไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถนำไปใช้รักษาโรคภายใต้การควบคุมและดูแลทางการแพทย์ได้  โดยการจะผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้นั้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎกระทรวงกำหนด และความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ และหากมีปริมาณการครอบครองเกิน10 กิโลกรัม ให้สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย

สำหรับหน่วยงานที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาได้นั้นประกอบด้วย..

1.หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หรือหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามแก้ปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย 

2.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

3.สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัยด้านการแพทย์

4.ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจชุมชน 

5.ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ

6. ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดติดตัวเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว

7.ผู้ขออนุญาตอื่นที่รมว.สาธารณสุขเห็นชอบ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ให้ความเห็นชอบการกำหนดโซนนิ่งในการปลูกกัญชา หรือผลิตทดสอบ เสพ หรือครอบครองในปริมาณที่กำหนด รวมถึงมีอำนาจกำหนดให้ท้องที่ใดเป็นพื้นที่เสพกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

บทลงโทษ- หากครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมีปริมาณกัญชาไม่ถึง 10 กิโลกรัม มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม จำคุก  1- 15 ปี ปรับ 100,000 -1,500,000 บาท.

สำหรับในร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดว่า เมื่อร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว 3 ปี ให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดประเมินผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการผลิต นำเข้าส่งออกจำหน่าย หรือครอบครองกัญชาทุก  6 เดือนด้วย

หลังจากที่สมาชิกสนช.ได้อภิปรายกันจนครบทุกมาตราแล้ว ที่ประชุมสนช.จึงได้ลงมติให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยคะแนน 166 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง ให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป… : www.108kaset.com เรียบเรียง

ขอบคุณ https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%..
https://www.google.com/search?client=firefox-b-ab&q=%E0%..