ชาวสวนเชียงใหม่ ฟาดลูกลำไยทิ้ง เครียดล้งไม่รับซื้อ ราคาเกรดAตกเหลือโลละ 3 บาท

ชาวสวนลำไยรายหนึ่งที่บ้านหนองช้างคืน หมู่ 4 ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน เกิดความเครียดที่ราคาลำไยตกต่ำ ชึ่งทางล้งที่รับซื้อลำไยส่งออกและส่งเข้าโรงงานลำไยอบแห้งได้งดรับซื้อมาตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564 เป็นต้นมา wfhใช้ไม้ฟาดผลลำไยที่ออกลูกเต็มต้นจนเสียหายหมดต้น..

“ส่วนราคาที่ชาวสวนรับลำไยพอรับได้ในปีนี้อยู่ที่ AA-15บาท A-10 บาท B-5 บาท ก็พอคุ้มทุน”

16 ส.ค.2564 ..ผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า “เขี้ยวพยัค หนองช้างคืน” ชื่อนายกิตติศักดิ์ เวชกามา อายุ 43 ปีชาวสวนลำไยหมู่ 4 บ้านหนองช้างคืน ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน ได้เล่าถึงเหตุการณ์กรณีที่ใช้ไม้ฟาดลูกลำไยที่ออกผลเต็มต้นในสวนของต้นเอง ซึ่งเครียดมาจากราคาลำไยตกต่ำ ไม่คุ้มทุนทั้งที่ผลผลิตลำไยในฤดูกาลนี้ได้ผลผลิตดี ลูกโต ผิวสวย(สีเหลืองทอง) ไม่มีแมลงรบกวน..

โดยราคาตกต่ำลงทุกวันมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ล่าสุดที่ผ่านมาทางล้งและโรงงานลำไยอบแห้ง ปิดรับชื้อเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.2564 แต่ปรากฎว่าช่วงเวลาปิดรับซื้อ ลำไยทั้งแก่จัดเริ่มเน่าเสียจึงเกิดความเครียดใช้ไม้ฟาดลำไยดังกล่าว..

นายกิตติศักดิ์ฯยังเปิดเผยถึงค่าแรงงานโดยคนขึ้นหักกิ่งลำไยวันละ 500-600 บาท แรงงานรูดร่วงวันละ 250-300 บาท หากเหมาขึ้นเก็บและรูดร่วงกิโลกรัมละ 3 บาท เมื่อนำลำไยไปขายแล้วแทบไม่พอค่าแรงงานเลย..

ขณะนี้ลำไยของตนยังเหลืออีก 6 สวน ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อพ่อค้าเปิดรับซื้อลำไยอีกครั้ง จะเหลือราคาสักกี่บาททั้ง เกรด AA,Aและ B ส่วนเกรด c ไม่ต้องพูดถึงเขาไม่รับซื้ออยู่แล้ว

ส่วนราคาที่ชาวสวนรับลำไยพอรับได้ในปีนี้อยู่ที่ AA-15บาท A-10 บาท B-5 บาท ก็พอคุ้มทุน

นอกจากนี้นายกิตติศักดิ์ยังกล่าวอีกว่าตนได้ทำสวนลำไยแล้ว ยังได้ปลูกคื่นฉ่ายเสริมอีกด้วย ทุกปีที่ผ่านมาราคาดีมากอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-120 สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 2-3 แสนบาท แต่มาปีนี้คื่นฉ่าย เหลือกิโลกรัมละ 40 บาท เท่านั้น..

16 ส.ค.64 จากการสำรวจโรงร่อนที่รับซื้อลำไยรูดร่วงในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ พบว่ามีหลายโรงร่อนได้ปิดรับซื้อ จะเหลือเพียงไม่กี่แห่งที่ยังเปิดรับซื้ออยู่ แต่จะซื้อเฉพาะเจ้าของสวนขาประจำเท่านั้น หากเป็นเจ้าอื่นจะไม่รับซื้อเลยและราคารับซื้อวันนี้อยู่ที่ เกรดAA-10 บาท,A-3 บาท,B-2 บาท และเกรด C ไม่รับซื้อ..

..ขณะนี้มีพ่อค้าที่รับซื้อเหมาสวน โดยติดมัดจำไว้ในอัตรา 30-40 %หลายรายต้องยอมเสียสละเงินค่ามัดจำให้กับเจ้าของสวน เพราะหากฝืนเก็บลำไยต่อไปก็จะขาดทุนไปมากกว่านี้ หรือ บางรายที่จ่ายเงินสดให้เจ้าของสวนไปก็ฝืนเก็บลำไยไปเพื่อจะได้ทุนคืนบ้าง ที่ยังเหลืออยู่ก็ปล่อยเน่าเสียคาต้นไป.
ขอบคุณhttps://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1749889/
https://www.google.com/search?client=firefox-b-d&q=%E0%B8..

“กระชายขาว”สมุนไพรสู้โควิด-19 สุดเจ๋ง..ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ 100%