เลี้ยงสัตว์ » พบอาคารบำบัดน้ำเสีย 2,500 ล้านบาทสร้างแล้วทิ้ง วันนี้เป็นวังปลาหมอคางดำ

พบอาคารบำบัดน้ำเสีย 2,500 ล้านบาทสร้างแล้วทิ้ง วันนี้เป็นวังปลาหมอคางดำ

27 สิงหาคม 2024
60   0

พบอาคารบำบัดน้ำเสีย 2,500 ล้านบาทสร้างแล้วทิ้ง วันนี้เป็นวังปลาหมอคางดำ

นครศรีธรรมราช – พบอาคารบ่อบำบัดน้ำเสียบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ มูลค่ากว่า 2.5 พันล้าน สำหรับบำบัดน้ำเสียจากการเลี้ยงกุ้งในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง สร้างแล้วไม่ได้ใช้งานถูกทิ้งร้างกลางทุ่ง ชาวบ้านจี้หาทางเร่งแก้ไขเสียดายงบประมาณนับพันล้าน ประมงจังหวัดแจงชาวบ้านไม่จ่ายเงินค่าบริหารจัดการทำต้องหยุดกิจการ

วันนี้ (26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนหลังจากพบอาคารบ่อบำบัดน้ำเสียมูลค่ากว่า 600 ล้าน ถูกทิ้งร้างอยู่ในตำบลเกาะเพชร อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลายเป็นสวรรค์แหล่งอาศัยและแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำ ล่าสุด ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และชาวบ้านในตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช ได้แจ้งว่ายังมีชุดอาคารเช่นนี้ถูกทิ้งร้างอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าพญา ในเขตโซนบริหารจัดการน้ำเค็มในเขตโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่ามีอาคารรูปแบบการก่อสร้าง และระบบเช่นเดียวกันกับพื้นที่ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร ทั้งหมดมี 4 อาคาร ระบบท่ออาคารละ 4 ชุด แต่ภายในถูกถอดอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และชิ้นส่วนต่างๆ หายไปหมดแล้ว บ่อบำบัดจำนวน 12 บ่อ อาคารนี้ถูกทิ้งร้างมาหลายปีต่อเนื่อง ไม่สามารถใช้การใดๆ ในบ่อพักน้ำและบำบัดเป็นอีกแหล่งที่มีปลาหมอคางดำเข้ามาอาศัยและแพร่ขยายพันธุ์

นายกล้าหาญ นวลจุย ชาวตำบลท่าพยา เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ระบุว่า ที่มาของโครงการนี้คือการไปศึกษาดูงานการเลี้ยงกุ้งที่จันทบุรี เมื่อราว 20 ปีก่อน หลังจากนั้นมาสร้างที่นี่ แต่เมื่อมีการสร้างแล้วเกิดปัญหาติดขัดจนไม่สามารถใช้การต่อไปได้ ถูกทิ้งมาจนถึงปัจจุบัน เรียกร้องให้ภาครัฐ รวมทั้งองค์กรตรวจสอบมาตรวจสอบให้ชัดเจนและทำอย่างไรให้มันกลับมาใช้การได้จริงไม่ควรถูกทิ้งร้างไว้เช่นนี้

ขณะที่นายโกศล ปัญจาระ สารวัตรกำนันตำบลท่าพญา ยืนยันว่า หลังจากก่อสร้างมีการใช้งานได้เพียง 1-2 ปี ปัญหานี้หมักหมมต่อเนื่องมายาวนานแม้แต่ซ่อมสร้าง พื้นที่นี้อยู่ในเขตโครงการพระราชดำริ แบ่งให้เป็นโซนการจัดการน้ำเค็ม ชาวบ้านต่างยินยอมตอบรับกติกาได้เลี้ยงกุ้งมาตั้งแต่กุลาดำ จนกระทั่งมาเป็นกุ้งขาวแวนาไมน์ โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ นับแต่ค่าเวนคืน ค่ารางน้ำ จนถึงบ่อบำบัด มีเขตพื้นที่จัดการเป็นหมื่นไร่ การจัดการน้ำเค็มไม่มีจริงอยากให้กลับมาดูแลตรวจสอบในเมื่อโครงการที่ทำไปแล้วใช้การไม่ได้ทุกข์ทรมานอยู่ที่ชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการพบข้อมูลการศึกษาโครงการนี้เมื่อปี 2546 โดยกรมประมง ใช้ชื่อว่า “โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การศึกษาจัดทำรายงานความเหมาะสมโครงการจัดระบบน้ำเค็มเพื่อการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล” เป็นเอกสารรายงานสำหรับผู้บริหาร โดยบริษัทที่ปรึกษา มีข้อมูลชุดโครงการนี้มูลค่า 2,592,408,905 บาท (สองพันห้าร้อยเก้าสิบสองล้านสี่แสนแปดพันเก้าร้อยห้าบาท) จากฐานราคาปี 2545 เป็นฐานคิดคำณวน

ขณะที่นายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าในการก่อสร้างโครงการมีจุดประสงค์คือการสูบน้ำทะเลเข้ามาในเขตชลประทานน้ำเค็มให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง และเมื่อเลี้ยงแล้วจะมีน้ำเสียจากการเลี้ยงจึงมีระบบบำบัด โดยมีข้อตกลงคือเกษตรกรร่วมชำระค่าไฟฟ้า ในปีแรกราชการออกให้ 75 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกร 25 เปอร์เซ็นต์ ปีที่สองราชการ 50 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกร 50 เปอร์เซ็น ปีที่สามราชการ 25 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกร 75 เปอร์เซ็นต์ และปีที่สี่เกษตรกรออกทั้งหมด แต่ไม่มีการชำระมาจากเกษตรกรเป็นเหตุให้ต้องหยุดดำเนินการเนื่องจากไม่มีงบประมาณ และไม่สามารถถ่ายโอนให้แก่ท้องถิ่นได้.

ที่มา https://www.pohchae.com/2024/08/27/wastewater-treatment/

ชมคลิป พลุริมฝั่งน้ำแสนสวยในงานลากพระ อ.ปากพนัง ปี2565 จุดยาว8นาที