ปลูกพืช » ปลูกผักเซียงดา สร้างรายได้ปีละ 3 แสน

ปลูกผักเซียงดา สร้างรายได้ปีละ 3 แสน

29 สิงหาคม 2018
1341   0

 

บ้านห้วยเคียน ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งมีนางโสภา สุขแสนโชติ หรือพี่ต้อย อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการกรมประมง เป็นเจ้าของกิจการปลูกผักเซียงดา หรือเสี้ยงดา ณ ไร่แสนสุข

นางโสภา เปิดเผยว่า หลังจากที่เออรี่รีไทร์จากสำนักงานประมงจังหวัดพะเยา เมื่อ ปี 2556 ที่ผ่านมา ก็ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ปลูกผัก เลี้ยงปลา เล่นๆ แต่ด้วยที่ตัวเองมีโรคประจำตัว คือ โรคไตและโรคเก้าท์ซึ่งสมัยเป็นเด็กพ่อเคยบอกว่าต้นเซียงดาสามารถรักษาโรคเหล่านี้ได้ จึงนำมาปลูกไว้ 1ต้น

จากนั้นก็เก็บกินทั้งแกง ผัด หรือชงเป็นน้ำชา หลังจากที่กินอยู่ประมาณ 2 ปีเศษๆ อาการเหล่านั้นได้หมดไปและรู้สึกดีขึ้น จึงลงมือขยายพันธุ์เพื่อนำไปปลูกแจกจ่ายญาติผู้ใหญ่ เพื่อนฝูงและเริ่มขยายไปเรื่อยจาก 1 ต้น เป็น 70 ต้น และ 1,300 ต้นในปัจจุบัน

นางโสภา กล่าวต่อว่า ทุกๆวันจะมีการเด็ดยอดอ่อนไปขายวันละ 2 รอบ คือ ช่วงเช้าประมาณ 06.00 น และช่วงเย็นประมาณ 16.00 รายได้ต่อวันประมาณ 500-700 บาท ใบแก่ก็เก็บไว้ทำชา ซึ่งก็สร้างรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 300-500 บาทต่อวัน ขายกล้าผักเซียงดาเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2,000-3,000 บาท

และโดยเฉลี่ยภายใน 1 ปี จะมีรายได้จากการขายยอดอ่อน ใบชาและกล้าผักประมาณ 3แสนบาทต่อปี ซึ่งถือว่าสร้างรายได้อย่างงาม

ผักเซียงดา ถือว่าเป็นราชินีผักพื้นบ้านทางภาคเหนือ ที่มีสรรพคุณทางยามากมาย สามารถนำมาทำอาหารได้เช่น แกงใส่ปลาแห้ง ทอดใส่ไข่ ยำหรือลวกจิ้มน้ำพริก ผลอ่อนสามารถนำมาผัดน้ำมันหอยก็อร่อย ใบแก่นำไปอบแห้งทำชาชงดื่มกิน

สำหรับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้การปลูกผักเซียงดา หรือต้องการซื้อกล้าไปปลูกเอง ติดต่อได้ที่นางโสภา สุขแสนโชติ ไร่แสนสุข เลขที่ 215 หมู่ที่ 2 ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา เบอร์โทรศัพท์ 081-783-4428


ผักเชียงดามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Gymnema inodorum (Lour.) Decne.
และมีชื่อท้องถิ่นหลายชื่อ เช่น เจียงดา, ผักเชียงดา, ผักกูด, ผักม้วนไก่ หรือ ผักเซ็ง
เป็นผักพื้นบ้านของภาคเหนืออีกชนิดหนึ่ง
ที่คนในท้องถิ่นนิยมบริโภค
ลักษณะของผักเชียงดา เป็นไม้เลื้อยมีลำต้นสีเขียว
ส่วนต่างๆ ที่อยู่เหนือดินมียางสีขาวคล้ายน้ำนม
ใบเป็นใบเดี่ยว ดอกเป็นดอกช่อและมีสีเหลืองหรือสีเขียว
ผลออกเป็นผักรูปร่างคล้ายหอก

การขยายพันธุ์ นิยมใช้วิธีปักชำหรือการเพาะเมล็ด
ผักเชียงดาเป็นพืชที่ทนแล้งแต่สามารถเจริญเติบโตได้ดี
ในดินร่วนที่มีการระบายน้ำที่ดี โดยนิยมปลูกตามริมรั้วหรือปล่อย
ให้เลื้อยขึ้นตามค้างหรือพาดขึ้นตามต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียง

คุณค่าทางโภชนาการ
ยอดอ่อนและใบอ่อนของผักเชียงดามีรสขมอ่อนๆ
และมีสารอนุมูลอิสระสูงมาก
ในผักเชียงดาหนัก 100 กรัม ให้พลังงาน 60 แคลอรี
มีน้ำประมาณ 87.9% วิตามินซี 153 มิลลิกรัม
เบต้าแคโรทีน 5905 ไมโครกรัม
วิตามินเอ 984 ไมโครกรัม แคลเซียม 78 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 98 มิลลิกรัม เส้นใยอาหาร 2.5 กรัม
โปรตีน 5.4 กรัม ไขมัน 1.5 กรัม และ
คาร์โบไฮเดรต 8.6 กรัม

สรรพคุณทางยา
ผักเชียงดามีสรรพคุณมากมาย เช่น
ช่วยลดน้ำตาล
แก้ไข้และแก้หวัด
ใช้รักษาอาการท้องผูกและโรคริดสีดวงทวาร
ช่วยกำจัดสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างในร่างกาย
ช่วยฟื้นฟูและบำรุงตับอ่อนให้แข็งแรง
ช่วยลดน้ำหนัก
ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและปวดกระดูก
ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคหอบหืด

cr: https://www.pohchae.com/
https://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php/topic,101647