ต้นกระบองเพชร หรือ แคคตัส (Cactus) พืชอวบน้ำที่เกือบทุกคนต้องรู้จัก เพราะมีหน้าตาน่ารัก สวยงาม ลำต้นเล็ก เลี้ยงง่าย วางไว้ตามโต๊ะทำงานก็ยังได้ แถมฮิตและโด่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง..
1.ที่มาและความเชื่อ
กระบองเพชร มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mila sp. ชื่อสามัญ Mila หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า แคคตัส (Cactus) มีข้อสันนิษฐานกันว่า เป็นพรรณไม้ที่เกิดขึ้นในยุค Tertiary ลักษณะของต้นกระบองเพชรในยุคนั้นมีลำต้น กิ่งก้าน และใบไม่ต่างจากต้นไม้ทั่วไป จนกระทั่งสภาพอากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้กระบองเพชรต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยเปลี่ยนรูปทรงของลำต้นให้มีขนาดเล็ก สูงเรียว สามารถเก็บน้ำได้มาก เปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำและป้องกันสัตว์มากัดกิน และหยั่งรากตื้นเพื่อให้จับน้ำในอากาศได้ง่าย จึงทำให้ต้นกระบองเพชรสามารถเจริญเติบโตได้แม้ที่แห้งแล้งอย่างทะเลทราย..
ต้นกระบองเพชรส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ก่อนขยายไปยังแอฟริกาและทั่วโลก ซึ่งบางสายพันธุ์นั้นก็มีการพัฒนาให้สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างเช่นในประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเรียกกระบองเพชรอื่นว่า โบตั๋น หรือ ท้าวพันตา เชื่อกันว่าการปลูกต้นกระบองเพชรทิศตะวันตกจะนำโชคลาภมาให้ โดยเฉพาะผู้ที่สามารถปลูกกระบองเพชรให้ออกดอกสวยงามได้ และยังช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ป้องกันภัยอันตราย และเป็นที่เกรงกลัวของศัตรูอีกด้วย
2. ลักษณะ
กระบองเพชร เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงตั้งแต่ 30 เซนติเมตรขึ้นไป ลำต้นมีสีเขียวหรือเขียวคล้ำจากสารคลอโรฟิลล์ซึ่งใช้สังเคราะห์แสงแทนใบ มีทั้งทรงกลมเตี้ยและกระบอกสูง ขึ้นต้นเดี่ยวและแตกเป็นกอ
สำหรับลักษณะของหนามมีทั้งแบบหนามแข็ง ปลายตรงหรืองุ้ม และแบบเส้นอ่อนคล้ายขนสัตว์ โดยสีของหนามขึ้นอยู่กับสายพันธุ์หรืออาจเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ
ในขณะที่ดอกของกระบองเพชร แม้จะขึ้นได้ยาก แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้ดอกไม้ชนิดอื่น ๆ มีทั้งสีแดง ชมพู ขาว และเหลือง มักออกดอกเดี่ยว ๆ ไม่มีก้านดอก
ส่วนของผลต้นกระบองเพชรก็มีหลากหลายรูปทรง ทั้งทรงกลม ทรงกระบอก รูปไข่ ผิวเปลือกเรียบ เป็นมัน เนื้อผลนุ่ม ใส คล้ายวุ่น มีหนามปกคลุมบางชนิด เมื่อผลแก่เต็มที่จะแห้งและร่วงลงดิน ในขณะที่ผลของบางสายพันธุ์เปลือกจะปริออกให้เมล็ดกระเด็นออกจากลำต้น
3. สายพันธุ์ของกระบองเพชร
กระบองเพชรเป็นพืชที่มีสายพันธุ์มากกว่า 2,000 สายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็มีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป แต่สามารถจำแนกเป็น 5 ประเภทหลักตามลักษณะของลำต้นได้ดังนี้
1. กระบองเพชรที่มีลำต้นและใบแบน (Flat-stem) เช่น สกุล Opuntia, Zygocactus, Epiplyllum
2. กระบองเพชรพวกที่มีลำต้นเป็นหัวกลม ๆ (Globular-stem) เช่น สกุล Astrophytum, Thelocactus,Mam- millaria
3. กระบองเพชรพวกที่มีกิ่งก้านคล้ายต้นไม้ทั่ว ๆ ไป (Branching-stern) เช่น สกุล Myrtillocactus Cereus, Pachy- cereus, Nopalxochia
4. กระบองเพชรพวกที่มีต้นเป็นกระจุกหรือต้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับปลูกในกระถาง (Small cacti) เช่น สกุล Echinopsis, Ariocarpus, Neobesseya
5. กระบองเพชรพวกที่เป็นเถาเลื้อยไต่ตามต้นไม้ กำแพง (Climbingcacti) เช่น สกุล Echinocactus, Cornegiea, Trichocereus
4. การปลูกต้นกระบองเพชร
การปลูกกระบองเพชรด้วยเมล็ด
การปลูกกระบองเพชรด้วยเมล็ด ให้นำเมล็ดแก่หรือเมล็ดจากผลที่ปริแตก มาแช่น้ำ 2-5 นาที จากนั้นล้างเมือกออก แล้วตากแดดให้แห้งประมาณ 1-2 วัน พักไว้อีก 1-2 เดือน ค่อยนำมาปลูกลงในกระถาง โดยใช้ทรายหรือดินร่วนผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกในอัตรา 1:1 ส่วน ใส่ลงในกระถางพลาสติกเล็ก ๆ เพื่อทำการเพาะ ก่อนนำเมล็ดมาโรยแล้วเกลี่ยดินกลบเล็กน้อย ก่อนจะรดน้ำให้ชุ่มแล้วนำถุงพลาสติกมาหุ้มคลุมไว้ วางไว้ในที่มีแดดรำไร พร้อมกับเช็กเป็นระยะ หากดินแห้งให้หมั่นรดน้ำเป็นประจำ หากพบว่าเมล็ดงอกเป็นต้นอ่อนได้ 2-3 วัน ค่อยย้ายไปปลูกในกระถางใหญ่ หากต้องการปลูกในแปลงเพื่อทำแนวรั้ว ให้ผสมดินร่วนกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในอัตราส่วน 3:1 แล้วขุดดินเพื่อปลูก ขนาดหลุมประมาณ 30x30x30 เซนติเมตร
การปักชำต้นกระบองเพชร
วิธีการขยายพันธุต้นกระบองเพชรที่ง่ายและรวดเร็ว เลยเป็นที่นิยมกันมาก โดยเตรียมวัสดุปลูกเหมือนกับการปลูกในกระถาง จากนั้นนำต้นหรือกิ่งจากต้นแม่มาปักชำลงกระถาง วางไว้ในที่แดดรำไร และรดน้ำ 2 วันต่อครั้ง หลักงจากกิ่งชำติดแล้วลดเหลือ 3 วันต่อครั้งก็พอ เพราะเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำน้อยแต่ต้องการต่อเนื่อง
5. ต้นกระบองเพชรกับการดูแล
แม้ต้นกระบองเพชรเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก แต่ก็ต้องการน้ำต่อเนื่อง ฉะนั้นเมื่อต้นโตเต็มที่แล้ว ควรหมั่นให้น้ำอย่างน้อย 7-10 วันต่อครั้ง บำรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 5-6 ครั้งต่อปี หมั่นตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง สิ่งที่ต้องระวังในการปลูกต้นกระบองเพชรคือ ลำต้นเหี่ยว มีรอยย่น และแคระแกร็น โคนโยก รากเน่าเพราะความชื้นสูงเกินไป แต่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูพืชเหมือนต้นไม้ชนิดอื่น ๆ
***ส่วนเคล็ดลับในการเลี้ยงต้นกระบองเพชรให้ออกดอกสำหรับการปลูกในบ้านก็คือ วางให้โดดแดดโดยตรงในช่วงที่กำลังโต ประมาณ 4-6 ชั่วโมงต่อวัน นอกเหนือจากนี้ก็วางกระถางในที่มีแดดรำไร และหมั่นรดน้ำเป็นประจำเมื่อหน้าดินแห้ง โดยรดน้ำให้ชุ่มหรือให้น้ำซึมลงไปจากหน้าดินประมาณ 2 นิ้ว นอกจากนี้ก็หมั่นใส่ปุ๋ยอย่าให้ขาด โดยเป็นปุ๋ยที่ใช้สำหรับบำรุงแคคตัสเท่านั้น หรือเป็นสูตรปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสกับโพแทสเซียมสูงแต่ไนโตรเจนต่ำ หากมีการเปลี่ยนกระถางไม่ควรรดน้ำทันที แต่ให้เว้นไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนให้น้ำครั้งต่อไป
6. ประโยชน์ต้นกระบองเพชร
– กระบองเพชรเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะแปลกตา สีสันสวยงาม ..จึงนิยมนำไปปลูกประดับบ้านหรืออาคาร เช่น ตั้งบนโต๊ะทำงานหรือวางตามมุมห้องต่าง ๆ
– ดอกและผลของต้นกระบองเพชรบางสายพันธุ์สามารถนำมารับประทานหรือประกอบอาหารได้ แต่ต้องกำจัดยางออกให้หมดก่อน
– น้ำมันในเมล็ดของผลกระบองเพชรสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางได้
– สารสกัดจากต้นกระบองเพชรมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี ไฟเบอร์ อีกทั้งยังช่วยลดการดูดซึมไขมัน ลดคอเลสเตอรอล และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
– หนามที่มีลักษณะแหลมคล้ายเข็มของกระบองเพชรสามารถนำมาเย็บแผลได้ แต่ต้องผ่านการฆ่าเชื้อที่สะอาดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
– สามารถดื่มน้ำในลำต้นของกระบองเพชรแก้กระหายเมื่อขาดแหล่งน้ำ อย่างเช่น กลางทะเลทรายได้…. : www.108kaset.com รวบรวม
ขอบคุณ https://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php/topic,99994
https://www.google.com/search?newwindow=1&q..
https://home.kapook.com/view184519
https://pixabay.com/th/%E0%B8%94%E0%B8%A..