เลี้ยงสัตว์ » รู้จัก Ivermectin ยากำจัดพยาธิ-ปรสิต.. ที่นิยมใช้กันมากที่สุด

รู้จัก Ivermectin ยากำจัดพยาธิ-ปรสิต.. ที่นิยมใช้กันมากที่สุด

21 มิถุนายน 2018
21859   0


 

Ivermectin เป็นผลผลิตที่ได้จากการหมักของเชื้อรา Streptococcus avermitilis ซึ่งถูกค้นพบและพัฒนาโดย Dr. Satochi Omura นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น โดยเขาได้พบต้นกำเนิดของเชื้อราสายพันธุ์นี้ในดินแถวสนามกอล์ฟ การค้นพบในครั้งนี้สร้างความแปลกใจให้เขามากเนื่องจากผลผลิตที่ได้จากหมักของเชื้อราตัวนี้สามารถต้านปรสิตชนิดต่างๆ ได้ ซึ่งแตกต่างจากเชื้อราตัวอื่นอย่างสิ้นเชิง..

คลิปความรู้เกี่ยวกับยาถ่ายพยาธิ..โดยอิทธิเดชสัตวแพทย์ จ.นครศรีฯ(ตอน1) คลิ๊ก!!

 

ผลผลิตที่ได้จากการหมัก Streptomyces avermitilis คือ Avermectins เป็นสารที่สามารถละลายได้ดีในไขมัน (lipophilic substance) จากการศึกษาพบว่าสารนี้เป็นสารที่ไวต่อกรด (acid sensitive) เนื่องจากกรดจะเป็นตัวตัดพันธะแล้วทำให้น้ำตาลตัวแรกที่เป็นองค์ประกอบหลุดออกไป ยิ่งถ้าเจอกรดที่แรงขึ้น ก็จะทำให้น้ำตาลตัวที่ 2 หลุดเกิดสารที่เรียกว่า aglycone นอกจากนี้สารตัวนี้ยังมีความไวต่อด่างอีกด้วย เนื่องจาก มีโปรตอนอยู่ในโครงสร้าง ดังนั้นการใส่ด่างลงไปจะมีผลทำให้สูตรโครงสร้างของสารเคมีตัวนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงไป..

ในการหมักแต่ละครั้งเราจะได้ avermectin ทั้งหมด 8 ตัว คือ A1a, A2a, B1a, B2a, A1b, A2b, B1b, B2b ซึ่งแตกต่างกันตามโครงสร้างของสูตรเคมี เวลาหมักตัวที่ได้เยอะ คือ A2a B1a B2a แต่ตัวที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ B1a เพราะเป็นตัวที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านปรสิตทั้งภายในและภายนอกได้มากที่สุด

ตัวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ Avermectin B1a ดังนั้นเขาจึงได้นำสารตัวนี้มาเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ 22,23 dihydro avermectin ดังนั้น Ivermectin ที่เราพูดกัน จริงๆแล้วเราก็หมายถึง B1a ตัวเดียวเท่านั้น

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาไอเวอร์เม็กติน

ยาไอเวอร์แมกตินมีชื่อทางการค้าที่รู้จักกันดีจนเรียกติดปากกันว่า ไอโวแมก (Ivomec) ซึ่งผลิตโดยบริษัทเมเรียลเพื่อใช้กับปศุสัตว์เป็นหลัก และได้มีบริษัทอื่นๆผลิตมาขายเป็นจำนวนมาก ยาไอเวอร์แมกตินได้รับความนิยมจากเจ้าของสัตว์ที่พบปัญหาเห็บหมัดรบกวนสัตว์เลี้ยง โดยคิดว่าเป็นวิธีที่สะดวกและง่าย เห็นผลเร็วดี..

นอกจากจะได้ผลดีในการกำจัดเห็บแล้วยังสามารถกำจัดพยาธิภายในและภายนอกชนิดอื่นๆได้อีกด้วย เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย พยาธิปากขอ พยาธิแส้ม้า พยาธิในปอด ไรขี้เรื้อน ไรในหู หมัด เหา ฯลฯ แต่การใช้ในการกำจัดพวกพยาธิต่างๆและเห็บหมัดนั้นจริงๆแล้วในสุนัขและแมวเป็นการใช้นอกเหนือการรับรอง กล่าวคือไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้อย่างเป็นทางการจาก FDA (Food and Drug Administration) หรือองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา..

สำหรับสุนัขนั้นยาไอเวอร์แมกตินได้รับการรับรองอนุญาตให้ใช้โดย FDA เพื่อใช้ในการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจเท่านั้น โดยวิธีการกินเดือนละ 1 ครั้ง ในขนาด 6 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก แต่ได้มีการนำมาใช้นอกเหนือจากที่ FDA กำหนด เพื่อการรักษาโรคที่เกี่ยวกับพยาธิในสุนัขและแมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆหลายโรค เช่น รักษาโรคขี้เรื้อนแห้ง โรคขี้เรื้อนเปียก ฆ่าตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิหนอนหัวใจ ( microfilariacide) โรคไรในหูของสุนัขและแมว หรือแม้แต่ใช้ในการกำจัดเห็บหมัดในสุนัขและแมว แต่เนื่องจากว่าการใช้ยานี้ในการรักษาโรคต่างๆข้างต้นนั้นจะต้องให้ยาในขนาดที่สูงมากๆหลายเท่ากว่าที่ FDA อนุญาตให้ใช้ในสุนัขเพื่อป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ เพราะฉะนั้นการใช้ควรปรึกษาและได้รับการพิจารณาจากสัตวแพทย์เท่านั้น โดยใช้ได้ตามความจำเป็นและเห็นสมควรของสัตวแพทย์ต่อสัตว์เป็นกรณีๆไป เนื่องจากว่าปริมาณยาที่ใช้ในการรักษานั้นสูงมากๆ ตั้งแต่ 50-100 เท่าของขนาดที่ให้ใช้ในการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจตามที่ FDA ได้กำหนดไว้ ดังนั้นจึงอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของท่านได้ถ้าผู้เลี้ยงใช้เองโดยไม่ระมัดระวัง

ยาไอเวอร์แมกตินสามารถดูดซึมได้ดีทั้งจากการฉีดเข้าใต้ผิวหนังและทางเดินอาหารโดยการกิน ลักษณะของตัวยาที่ใช้กันในคลินิกเป็นของเหลวใส ค่อนข้างหนืด มีความเข้มข้นของตัวยาอยู่ 1% เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนังสัตว์จะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน แต่ถ้าให้กินจะมีรสขม เผ็ดร้อน ระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องปากเล็กน้อย เมื่อให้สัตว์กินควรผสมกับอาหารหรือทำให้เจือจางก่อน

ยาไอเวอร์แมกตินตัวนี้ออกฤทธิ์ทำให้พยาธิตายได้โดยจะมีผลกับระบบประสาทของพยาธิ ทำให้เกิดเป็นอัมพาตและตายในที่สุด ไม่ส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เนื่องจากว่าระบบประสาทที่ยาไอเวอร์แมกตินมีผลนั้น จะมีเฉพาะในระบบประสาทส่วนกลางเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ๆยาไอเวอร์แมกตินไม่สามารถซึมผ่านไปได้หรือซึมผ่านไปได้ยาก ความปลอดภัยจึงมีมาก แต่มีข้อยกเว้นคือ ถ้าสัตว์ได้รับยาในปริมาณที่สูงมาก อาจทำให้เกิดความเป็นพิษกับสัตว์ได้เช่นกัน พบได้บ่อยครั้งในลูกสัตว์หรือตัวที่มีน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งการให้ยากับสัตว์เหล่านี้มักเสี่ยงต่อการให้ในปริมาณที่เกินขนาดได้ง่าย

สำหรับสุนัขบางสายพันธุ์นอกเหนือจากการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจโดยการกินเดือนละหนึ่งครั้งแล้ว การใช้ในกรณีอื่นต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่ามีสุนัขบางสายพันธุ์มีความไวต่อความเป็นพิษของยาตัวนี้อย่างสูง สายพันธุ์เหล่านั้นได้แก่ สุนัขพันธุ์คอลลี่ (Collie) พันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) พันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก (Old English Sheepdog) และพันธุ์ออสเตรเลียน ชีพด็อก (Australian Sheepdog) รวมทั้งพันธุ์ผสมของสุนัขสายพันธุ์เหล่านี้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ผู้ใช้ต้องเป็นสัตวแพทย์และอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด

พิษของยาไอเวอร์แมกตินต่อสัตว์นั้นส่วนมากมักเกิดจากการที่สัตว์ได้รับยาในปริมาณมากเกินขนาด ซึ่งจะแสดงอาการซึม การยืนและการทรงตัวผิดปรกติ เดินโซเซเหมือนคนเมาเหล้า คอตก น้ำลายไหลยืด รูม่านตาขยายถ้ารุนแรงมากจะมีอาการสั่น ชัก หมดสติ และอาจถึงตายในที่สุด สัตว์ที่แสดงอาการพิษบอกได้เลยว่าต้องทำใจ เนื่องจากไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะหรือไม่มียาแก้พิษโดยตรง การรักษาเป็นเพียงการรักษาตามอาการเพื่อประคับประคอง อาการ โดยการให้น้ำเกลือ ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง หรืออาจใช้ยา Picrotoxin หรือ Physostigmine ร่วมด้วย เคยมีรายงานว่าสามารถช่วยลดความเป็นพิษของไอเวอร์แมกตินลงได้ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเช่นกัน เพราะว่ายาทั้งสองตัวนี้มีความปลอดภัยในการใช้ต่ำ สำหรับไอเวอร์แมกตินสามารถขจัดออกจากร่างกายของสัตว์เองอย่างช้าๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป ดังนั้นสัตว์ที่ป่วยจากความเป็นพิษของของยาชนิดนี้ ถ้ามีชีวิตรอดได้เกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป น่าจะมีโอกาสรอดมากขึ้นตามลำดับ

ตัวยาไอเวอร์แมกตินนั้นจะไม่สามารถละลายได้ในน้ำ ตัวทำละลายที่ใช้กับตัวยาไอเวอร์แมกตินมีอยู่ 4 ชนิดคือ

1. DMSO (มักใช้ในยาไม่มีทะเบียน)
2. Diethylene glycol
3. Propylene glycol
4. Oil-base (ไม่แสบ)

 

วิธีการให้ยา

1. ชนิดฉีด

ให้ฉีดเข้าใต้ผิวหนังเท่านั้น ห้ามฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เพราะจะไม่ให้ผลการรักษาในระยะยาว เนื่องจากฉีดเข้าใต้ผิวหนังฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้หลายวันมากกว่า เราฉีดโดยการดึงหนังขึ้น (โดยมากใช้บริเวณหลังคอ) แล้วฉีดเข้าใต้ผิวหนัง

ตัวอย่างการอ่านฉลากยา

ยาฉีด Ivermectin 1.0% w/v หมายถึง ในน้ำยา 100 ซีซี จะมีปริมาณยาอยู่ 1.0 กรัม (หรือ 1,000 มิลลิกรัม หรือ 1,000,000 ไมโครกรัม)
ยาฉีด Ivermectin 2.5% w/v หมายถึง ในน้ำยา 100 ซีซี จะมีปริมาณยาอยู่ 2.5 กรัม (หรือ 2,500 มิลลิกรัม หรือ 2,500,000 ไมโครกรัม)

สาเหตุที่ต้องผลิตมาแบบเจือจาง เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวนน้ำยา (ซีซี) ที่ต้องการ ไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพราะถ้าผลิตมาแบบเข้มข้นจะต้องใช้ในปริมาณที่น้อยมากๆ ยากต่อการวัด จะทำให้เกิดการใช้ยาเกินขนาดหรือน้อยกว่าขนาดที่ต้องการ

ตัวอย่างการคำนวนปริมาณยาฉีด (ซีซี)
ยาฉีด Ivermectin 1.0% w/v หมายถึง ในน้ำยา 100 ซีซี จะมีปริมาณยาอยู่ 1.0 กรัม (หรือ 1,000 มิลลิกรัม หรือ 1,000,000 ไมโครกรัม)
ดังนั้นในน้ำยา 1 ซีซี จะมีปริมาณยาอยู่ 0.01 กรัม (หรือ 10 มิลลิกรัม หรือ 10,000 ไมโครกรัม)

สมมุติสุนัขหนัก 20 กิโลกรัม จะต้องใช้ยา 1.0% = 450 (ไมโครกรัม/กิโลกรัม) x 20 (กิโลกรัม) / 10,000 (ไมโครกรัม/ซีซี) = 0.9 ซีซี หรือ 1.0 ซีซี
สมมุติสุนัขหนัก 78 กิโลกรัม จะต้องใช้ยา 2.5% = 450 (ไมโครกรัม/กิโลกรัม) x 78 (กิโลกรัม) / 25,000 (ไมโครกรัม/ซีซี) = 1.4 ซีซี หรือ 1.5 ซีซี

สรุปสูตรปริมาณยาฉีด

จำนวนยาที่ใช้ฉีด (ซีซี) = 450 (ไมโครกรัม/กิโลกรัม) x น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)
————————————-
ความเข้มข้น (%) x 10,000 (ไมโครกรัม/ซีซี)

 

ขนาดของ “ไอเวอร์แมกติน” ที่ใช้กันในทางสัตวแพทย์นั้น แตกต่างกันตามแต่วัตถุประสงค์ในการใช้ดังนี้คือ

  • 6 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / เดือน
    ใช้สำหรับป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ โดยสามารถเริ่มป้องกันได้ตั้งแต่สุนัขมีอายุ 2 เดือน
  • 200 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / ครั้ง
    ใช้สำหรับฆ่าพยาธิตัวอ่อนระยะติดต่อในกระแสเลือด (microfilariacide) ใช้กำจัดพยาธิภายใน (endoparasite) เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า เป็นต้น
  • 300-600 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / วัน
    ใช้สำหรับกำจัดพยาธิภายนอก (miticide) หรือกำจัดเห็บ หมัด ไร เหาชนิดต่างๆ

    • ถ้าเป็นยากิน ให้กิน 5 – 10 วันติดต่อกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค หลังจากนั้นให้กินป้องกันทุกเดือนเป็นเวลา 5 วัน
    • ถ้าเป็นยาฉีด ใช้ประมาณ 1 cc / 20 กิโลกรัม / 15 วัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น หลังจากนั้นให้ฉีด 1 cc / 20 กิโลกรัม / 30 วัน เพื่อป้องกัน
  • 600 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / วัน
    ใช้กำจัดไรขึ้เรื้อนสุนัขชนิดแห้ง

    • ถ้าเป็นยากิน ให้กิน 20 – 30 วันติดต่อกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
    • ถ้าเป็นยาฉีด ใช้ประมาณ 1 cc / 20 กิโลกรัม / 10 วัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งอาการจะดีขึ้นภายใน 30 วัน
  • 600-900 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / วัน
    ใช้กำจัดไรขึ้เรื้อนสุนัขชนิดเปียก

    • ถ้าเป็นยากิน ให้กิน 20 – 30 วันติดต่อกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
    • ถ้าเป็นยาฉีด ใช้ประมาณ 1 cc / 20 กิโลกรัม / 10 วัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งอาการจะดีขึ้นภายใน 30 วัน

 

2. ชนิดกิน เป็นผงผสมในอาหาร

 

การให้ยาฉีดไอเวอร์เม็กติน ทางอาหาร

ตัวยาไอเวอร์เม็กตินสามารถถูกดูดซึมได้ทางระบบทางเดินอาหารได้ด้วย เราจึงสามารถให้ยาไปพร้อมกับอาหารได้โดยใช้สูตรคำนวนปริมาณยาเช่นเดียวกับวิธีฉีด คือ สำหรับยาฉีดความเข้มข้น 1% จะใช้ 1 มิลลิลิตร (ซีซี) ต่อน้ำหนักตัวสุนัข 20 กิโลกรัม

ให้ทดลองดูว่า สุนัขของท่านชอบขนมชนิดใด จากนั้นจึงฉีดไอเวอร์เม็กตินเข้าไปในขนม แล้วให้สุนัขรับประทาน วิธีนี้สะดวกมากสำหรับสุนัขจรจัดและสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย ทั้งนี้ควรเปลี่ยนเข็มใหม่ทุกครั้งที่ดูดยา เพื่อป้องกันมิให้เชื้อโรคเข้าไปในขวดยา ยาฉีดไอเวอร์เม็กตินแต่ละยี่ห้อจะมีรสขมไม่เท่ากัน เวลาฉีดบางยี่ห้อก็แสบมากแสบน้อยแตกต่างกันไป

ยาฉีด Ivermectin สามารถถูกดูดซึมได้ที่ทางเดินอาหารด้วย จึงสามารถให้สุนัขทานได้ ปริมาณยาที่ใช้สำหรับกำจัดพยาธิภายนอก (miticide) หรือกำจัดเห็บ หมัด ไร เหาชนิดต่างๆ คือ

300 – 600 ไมโครกรัม ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อ เดือน

ข้อควรระวังในการซื้อยาไอเวอร์แมกตินสำหรับสุนัขและแมว

เนื่องจากยาไอเวอร์แมกตินทั้งหมดจะผลิตมาเพื่อใช้ในปศุสัตว์เป็นหลัก ดังนั้นจึงมียาบางรุ่นเป็นยาสูตรผสม เพิ่มสรรพคุณฆ่าพยาธิใบไม้ในตับ เหมาะสำหรับใช้กับสัตว์เคี้ยวเอื้องที่กินหญ้าและน้ำตามแหล่งสาธาณะหนองบึง โดยบางบริษัท ได้พัฒนาตัวยา ที่มีตัวย่อว่า F ตามท้าย เช่น IVERMEC-F จะสามารถถ่ายพยาธิใบไม้บางตัวได้อีกด้วย (ต่อย่อ F = Fluke แปลว่าพยาธิใบไม้)

แต่ยา IVERMEC-F นี้จะมีผลเสียต่อสุขภาพของสุนัข คือสุนัขจะเป็นโรคลำใส้อักแสบได้ ดังนั้นจึงห้ามซื้อยาสูตรผสมมาใช้กับสุนัขและแมวอย่างเด็ดขาด

ตัวอย่างเช่น

Ivomec (ธรรมดา) ประกอบไปด้วยตัวยา Ivermectin 1.0 w/v
Ivomec-F ประกอบไปด้วยตัวยา Ivermectin 1.5 w/v + Clorsulon 15 w/v

ตัวยาที่ 1 คือ Ivermectin เพื่อกำจัดพยาธิต่างๆ
ตัวยาที่ 2 คือ Clorsulon สรรพคุณฆ่าพยาธิใบไม้ในตับ มีผลเสียต่อสุนัขทำให้ลำใส้อักแสบ

 

Ivermectin – ผลข้างเคียง

  • อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้น
  • ผิวแห้ง
  • ไอ
  • อาการคัน
  • เจ็บคอ
  • ความเมื่อยล้า

ยาไอเวอร์เมคติน โทษของมันคือ ถ้าใช้เกินขนาด จะทำให้สัตว์เกิดอาการเป็นพิษทางระบบประสาท (เหมือนพยาธินั่นเอง) ก็คือ สัตว์จะมีโอกาสเป็นอัมพาต ขาอ่อนแรง ล้มลงนอน บางตัวตาเป็นฝ้า จนถึงตาบอด และห้ามใช้ในสัตว์เด็ก ที่อายุต่ำกว่า 1.5 เดือน มีพิษต่อตับสูง

 

จากการใช้งานจริง หลายฟาร์มจะพบปัญหาว่าเมื่อฉีดในแพะที่กำลังท้องในระยะแรก มีผลทำให้แท้ง หรือลูกที่คลอดออกมาไม่สมบูรณ์ ..(ไม่มีข้อยืนยันว่าใช้ยาเกินขนาดหรือไม่)..ดังนั้นเกษตรกรที่ใช้ยาตัวนี้ควรระมัดระวังการใช้ยาในเรื่องนี้ด้วยนะครับ.

รวมคอมเม้นท์ จาก เฟซบุ๊ค เลี้ยงแพะยั่งยืน ( https://web.facebook.com/groups/1211728858838662/permalink/2140440059300866/ )

เก่งการเกษตรฟาร์มแพะ ฟาร์มแพะ ผมไม่รู้นะครับว่ายาตัวนี้ฉีดแพะท้องไม่ได้ แต่เวลาผมฉีดผมฉีดยกคอกครับท้องแก่หรือท้องอ่อนผมฉีดหมดแต่ไม่มีปัญหาเรื่องแท้งเลยแม้แต่ตัวเดียว (หมอจะบอกเสมอว่ายาไม่ได้ทำให้แท้งแต่การจับต้อนฉีดยาตั้งหากที่ทำให้เกิดแท้งได้)

บริษัทผู้นำยา มาจำหน่ายภายใต้ชื่อยี่ห้อต่างๆกัน แต่ตัวยาหลักชนิดเดียวกัน..

VIRBAMEC – 1F 25/2541 บริษัท เวอร์แบค (ประเทศไทย) จำกัด
IVERTIN – 1F 65/2541 บริษัท ไบโอเท็ค แอ็กกริ-บิซเน็ส จำกัด
CEVAMEC – 1F 26/2542 บริษัท ซาโนฟี่-ซินเตลาโบ (ประเทศไทย) จำกัด
ECOMECTIN – 1F 40/2542 บริษัท ไบโอเท็ค แอ็กกริ-บิซเน็ส จำกัด
IVOMEC – 1F 86/2543 บริษัท เมเรียล (ประเทศไทย) จำกัด
IVOMEC – 1F 87/2543 บริษัท เมเรียล (ประเทศไทย) จำกัด
VIRBAMEC LA – 1F 93/2543 บริษัท เวอร์แบค (ประเทศไทย) จำกัด – Vet Agritech Co., Ltd. – ไม่แสบ
FENOMAX LA – 1F 25/2544 บริษัท อินเตอร์เว็ท (ประเทศไทย) จำกัด – Intervet (Thailand) Co., Ltd. (www.intervet.co.th) – ไม่แสบ
EUVECTIN – 1F 73/2544 บริษัท พีวีจี เทรดดิ้ง จำกัด
BOMECTIN – 1F 51/2545 บริษัท อโกรเมด จำกัด
BIMECTIN – 1F 94/2545 บริษัท พีคพ้อยท์ เพอร์มาเน้นท์ จำกัด
CEVAMEC – 1F 108/2545 บริษัท ซีวา แอนิมัล เฮลธ์ (ประเทศไทย) จำกัด – (www.ceva.com)
IVERIPRA-I – 1F 12/2546 บริษัท ไบโอเท็ค แอ็กกริ-บิซเน็ส จำกัด
IVERVET – 1F 60/2546 บริษัท พีวีจี เทรดดิ้ง จำกัด
IVERTIN – 1F 64/2546 บริษัท ไบโอเท็ค แอ็กกริ-บิซเน็ส จำกัด
ECOMECTIN – 1F 65/2546 บริษัท ไบโอเท็ค แอ็กกริ-บิซเน็ส จำกัด – Ecovet Co., Ltd. (www.ecovett.com)
NOROMECTIN – 1F 33/2547 บริษัท ฟิลลิปส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด – (www.norbrook.com) – อาจเลิกผลิต
IVERMECTIN – 1F 35/2547 บริษัท เอ็ม.จี ฟาร์มา จำกัด
PROMECTINE – 1F 1/2548 บริษัท ปีเตอร์ แฮนด์ (ประเทศไทย) จำกัด
PANDEX – 1F 13/2549 บริษัท อินเตอร์เว็ท (ประเทศไทย) จำกัด
OVERTIN – 1F 34/2549 บริษัท ยูเนียน อกรีฟาร์ จำกัด
PANDEX – 1F 20/2551 บริษัท ฮูเวฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
BAYMEC – 1F 61/2551 บริษัทไบเออร์ไทย จำกัด
IVERMEC-KOS – 1F 76/2551 บริษัท คอส อินโทรเท็ค จำกัด
IVOMEC – 1F 25/2552 บริษัท เมเรียล (ประเทศไทย) จำกัด – Merial (Thailand) Co., Ltd. (th.merial.com) – แสบมาก
IVOTAN LA – 1F 32/2552 บริษัท เชอริ่ง-พลาว แอนิมัล เฮ็ลธ จำกัด – น่าจะไม่แสบ

VERMAX – 1D 15/2541 บริษัท สามัคคีเภสัช จำกัด
IVOTIC – 1D 55/2541 บริษัท โรงงานเภสัชกรรม แอตแลนติค จำกัด
IVERSAT – 1D 72/2546 ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล.บี.เอส. แลบบอเรตอรี่ – Unovet Network Co., Ltd. (www.unovetgroup.com)
IMAC – 1D 238/2546 บริษัท สามัคคีเภสัช จำกัด
DEVECTIN – 1D 40/2547 บริษัท ไทยนาโอกะ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด
IVERCIN – 1D 41/2547 บริษัท ไทยนาโอกะ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด
IDECTIN – 1D 42/2547 บริษัท ไทยนาโอกะ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด
B-MECTIN – 1D 137/2547 – บริษัท บุคคโล เทรดดิ้ง จำกัด
IVERMECTIN – 1D 138/2547 – บริษัท บุคคโล เทรดดิ้ง จำกัด
B-VERMEC – 1D 139/2547 – บริษัท บุคคโล เทรดดิ้ง จำกัด
MERVECTIN – 1D 14/2548 – ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล.บี.เอส. แลบบอเรตอรี่
VESCOMEC – 1D 198/2549 – ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวสโก ฟาร์มาซูติคอล
IVERPAC – 1D 199/2549 – ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวสโก ฟาร์มาซูติคอล
IVERMECTIN – 1D 228/2549 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวสโก ฟาร์มาซูติคอล
ECOMECTIN – 1D 229/2549 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เวสโก ฟาร์มาซูติคอล – Ecovet Co., Ltd. (www.ecovett.com)
NOVAMECTIN – 1D 66/2550 บริษัท โนวา เมดิซีน จำกัด
V-OMEC – 1D 94/2550 บริษัท โนวา เมดิซีน จำกัด – Vet Inter Product Co.,Ltd.
IVERMECTIN – 1D 186/2550 บริษัท โนวา เมดิซีน จำกัด
VERSOL – 1D 14/2551 บริษัท ที.พี. ดรัก แลบบอราทอรี่ส์ (1969) จำกัด – T.P. Drug Laboratories (1969) Co., Ltd. (www.tpdrug.com)
BEVERMEC – 1D 102/2551 ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล.บี.เอส. แลบบอเรตอรี่
BETMECTIN – 1D 112/2551 ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอล.บี.เอส. แลบบอเรตอรี่
ZOOTAMEC – 1D 117/2551 บริษัท โนวา เมดิซีน จำกัด

DECTOMAX (ตัวยา doramectin) – 1F 10/2547 บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด – ไม่แสบ

 

1A ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ผลิตในประเทศ (ยาเดี่ยว)
1B ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบ่งบรรจุ (ยาเดี่ยว)
1C ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์นำหรือสั่งเข้าฯ (ยาเดี่ยว)
1D ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์ผลิตในประเทศ (ยาเดี่ยว)
1E ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์แบ่งบรรจุ (ยาเดี่ยว)
1F ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์นำเข้าฯ (ยาเดี่ยว)

2A ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์ผลิตในประเทศ (ยาผสม)
2B ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบ่งบรรจุ (ยาผสม)
2C ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์นำหรือสั่งเข้าฯ (ยาผสม)
2D ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์ผลิตในประเทศ (ยาผสม)
2E ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์แบ่งบรรจุ (ยาผสม)
2F ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนปัจจุบันสำหรับสัตว์นำเข้าฯ (ยาผสม)

G ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับมนุษย์ผลิตในประเทศ
H ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับมนุษย์แบ่งบรรจุ
K ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับมนุษย์นำหรือสั่งเข้าฯ
L ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับสัตว์ผลิตในประเทศ
M ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับสัตว์แบ่งบรรจุ
N ขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณสำหรับสัตว์นำหรือสั่งเข้าฯ


อ่าน..

-ยาควรมีประจำคอก..กลุ่มยาถ่ายพยาธิแพะแบบฉีด+กิน

-การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและใต้ผิวหนังแพะ-และวิธีการให้ยาแก่สัตว์เลี้ยง


ขอบคุณ https://en.wikipedia.org/wiki/Ivermectin

https://www.google.co.th/search?newwindow=1&safe=active&client=firefox-b&dcr=0&biw=1138&bih=562&tbm=isch&sa=1&ei=ZH4XWt7BEsfpvATmnoiIAw&btnG=%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2&q=ivermectin+

เฟซบุ๊ค เลี้ยงแพะยั่งยืน ,ซื้อ-ขายแพะ , สมาคมแพะ-แกะไทย

https://www.tabletwise.com/medicine-th/ivermectin

 

  • Ever Miss a Dose of Your Medicine?
  • Cancer.Net (2014). The Importance of Taking Your Medication Correctly
  • Schachter, S.C., Shafer, P. O. &; Sirven, J.I. (2013). Missed Medicines. Epilepsy Foundation
  • National Institute of Drug Abuse (2010). Prescription Drugs: Abuse and Addiction. Report Research Series
  • eMedicinehealth (2016). Drug Overdose Overview
  • Centers for Disease Control and Prevention (2010). Unintentional drug poisoning in the United States
  • Centers for Disease Control and Prevention. December 12, 2011. Put your medicines up and away and out of sight