เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุงวงช้างพัดถล่มเข้า 3 หมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 1 หมู่ 6 และหมู่ 8 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช อย่างหนัก
ส่งผลให้ทั้ง 3 หมู่บ้านถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรออกจากหมู่บ้านได้ เสาไฟฟ้าล้มและต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับปิดเส้นทางสายหลัก ชาวบ้านกว่า 1 พันครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนั้นเรือกสวนไร่นา บ้านเรือนชาวบ้านจำนวนมากพังเสียหาย ซึ่งการสำรวจความเสียหายเป็นไปด้วยความยากลำบาก..
นอกจากนั้นในพื้นที่ ต.หินตก และ ต.ควนพัง ยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน..
หลังเกิดเหตุ จ.ส.อ.ธรนรมนูญ มูณีเกิด นายกอบต.เสาธง พร้อมด้วย นายอะสาน ทรงเลิศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 เข้าทำการสำรวจและให้การช่วยเหลือเคลียร์พื้นที่ตัดต้นไม้และเสาไฟฟ้าที่ล้มกีดขวางถนน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้นท่ามกลางความมืดมิด โดยระบุว่า ยังไม่สามารถรวบรวมความเสียหายได้เนื่องจากเส้นทางถูกไม้ขนาดใหญ่โค่นล้มเป็นระยะทางยาวกีดขวางถนนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ไม่มีแสงสว่าง ซึ่งได้ประสานสำนักงานปภ.นครศรีธรรมราช รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นเพื่อเสนอให้ผู้ว่าฯ ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อระดมสรรพกำลังเข้าให้การช่วยเหลือ ส่วนบ้านเรือนที่พังเสียหายนั้นยังไม่สามารถระบุจำนวนได้
“เบื้องต้นมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งต้องอพยพออกจากบ้านตัวเองที่เสียหายจากต้นไม้ที่ล้มทับ หลังคาปลิวจนเหลือเป็นโครงสร้างของบ้าน โดยได้อพยพไปอาศัยบ้านของญาติและเพื่อนบ้านชั่วคราว ส่วนเส้นทางที่ถูกตัดขาดนั้นเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ 3 หมู่บ้านมีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 1 พันครัวเรือน ซึ่งต้องตัดกระแสไฟฟ้าเพราะเสาไฟฟ้าล้มจำนวนมาก เกรงว่าหากปล่อยกระแสไฟจะเกิดอันตรายได้”
ด้านจ.ส.อ.ไพโรจน์ จุติรัตน์ อายุ 75 ปี เล่านาทีระทึกว่า ต้นยางนาขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปีขนาด 5-6 คนโอบหลังบ้านล้มทับบ้านจนพังเสียหาย โดยก่อนเกิดเหตุมีล้มพายุพัดกระหน่ำมาอย่างรุนแรง ซึ่งตั้งแต่เกิดยังไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะนั้นกำลังอยู่ในครัวหลังบ้านแล้วเกิดเสียงดังลั่นเหมือนต้นไม้ล้ม จึงวิ่งหนีออกจากบ้านโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1062011